ระบบจะตอบกลับภายใน 24 ชั่วโมง
ขอบคุณสำหรับข้อเสนอแนะและข้อมูลเพิ่มเติม เราจะนำข้อมูลของท่านไปพัฒนาระบบให้ดียิ่งขึ้น
ชื่อสมุนไพร | พะยูง |
ชื่ออื่นๆ | ขะยุง (อุบลราชธานี), แดงจีน (ปราจีนบุรี), ประดู่ตม, ประดู่น้ำ (จันทบุรี), พะยูงไหม (สะบุรี), ประดู่ลาย (ชลบุรี), ประดู่เสน (ตราด), กระยง, กระยุง |
ชื่อวิทยาศาสตร์ | Dalbergia cochinchinensis Pierre. |
ชื่อพ้อง | |
ชื่อวงศ์ | Leguminosae -Papilionoideae |
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงใหญ่ ผลัดใบช่วงสั้นๆ ลำต้นสูง 15-30 เมตร ทรงพุ่มรูปไข่หรือแผ่กว้าง โปร่ง เปลือกต้นสีเทาเรียบ แตกไม่เป็นระเบียบ และหลุดร่อนเป็นแผ่น เปลือกในสีน้ำตาลแกมเหลือง เนื้อไม้มีสีแดงอมม่วงถึงแดงเลือดหมูแก่ เนื้อละเอียด แข็งแรงทนทาน ใบประกอบแบบขนนกปลายคี่ เรียงสลับ ใบย่อย 7-9 ใบ รูปไข่หรือรูปใบหอก กว้าง 3-4 เซนติเมตร ยาว 4-7 เซนติเมตร ปลายใบแหลมเป็นติ่งหู โคนใบมนกว้าง ขอบใบเรียบเป็นคลื่นเล็กน้อย แผ่นใบบางแต่ค่อนข้างเหนียว คล้ายแผ่นหนัง แผ่นใบด้านบนสีเขียวเข้ม แผ่นใบด้านล่างสีเขียวนวล แกนกลางใบประกอบยาว 10-15 เซนติเมตร เส้นแขนงใบข้างละ 5-7 เส้น ก้านใบย่อยยาว 3-6 เซนติเมตร ดอกช่อแบบช่อแยกแขนง ออกที่ปลายยอดหรือซอกใบใกล้ปลายยอด ช่อดอกตั้งขึ้น ยาว 10-20 เซนติเมตร กลีบเลี้ยงเชื่อมติดกันเป็นรูประฆัง ขอบหยักซี่ฟันตื้นๆ 5 จัก มีขนสั้น กลีบดอกรูปดอกถั่ว สีขาวนวล มีกลิ่นหอมอ่อนๆ กลีบดอกยาว 0.8-1 เซนติเมตร ดอกบานเต็มที่กว้าง 5-8 มิลลิเมตร กลีบดอก 5 กลีบ เกสรเพศผู้ 10 อัน เชื่อมติดกันเป็น 2 มัด ดอกร่วงพร้อมกัน ภายใน 2-3 วัน ผลเป็นฝักแห้งไม่แตกออก ฝักจะร่วงหล่นโดยที่เมล็ดยังอยู่ในฝัก ฝักรูปขอบขนาน แบนบาง เกลี้ยง กว้าง 1-1.5 เซนติเมตร ยาว 4-5 เซนติเมตร ตรงกลางมีกระเปาะหุ้มเมล็ด เมล็ดรูปไต สีน้ำตาลเข้ม 1-4 เมล็ด ต่อฝัก ผิวเมล็ดค่อนข้างมัน กว้างประมาณ 4 มม. ยาว 7 มม. ออกดอกราวเดือนพฤษภาคมถึงกรกฎาคม ติดผลราวเดือนกรกฎาคมถึงกันยายน พบตามป่าเบญจพรรณชื้น ป่าดิบแล้ง ที่ความสูง 100-200 เมตร จากระดับน้ำทะเล เนื้อไม้มีสีสันและลวดลายสวยงามจนถือได้ว่าเป็นไม้ที่มีราคาแพงที่สุดชนิดหนึ่งในตลาดโลก เนื้อไม้พะยูงมีความละเอียดเหนียว แข็งทนทานและชักเงาได้ดี มีน้ำมันในตัวจึงมักใช้ทำเครื่องเรือน เครื่องใช้ต่าง ๆ มีชื่อเป็นมงคล เชื่อว่าปลูกไว้จะช่วยพยุงให้โชคดีมีชัย
สรรพคุณ
ยาพื้นบ้านอีสานใช้ เปลือกต้นหรือแก่น ผสมแก่นสนสามใบ แก่นแสมสาร และแก่นขี้เหล็ก ต้มน้ำดื่ม แก้มะเร็ง เปลือกต้นหรือแก่น ผสมลำต้นหวาย ต้มน้ำดื่ม แก้เบาหวาน
ตำรายาไทย ราก ใช้รับประทานแก้พิษไข้เซื่องซึม เปลือก ต้มเอาน้ำอมแก้ปากเปื่อย ปากแตกระแหง ยางสด ใช้ทาแก้เท้าเปื่อย
องค์ประกอบทางเคมี
ลำต้นพบสารกลุ่มฟีนอลิกและฟลาโวน ได้แก่ 9-hydroxy-6,7-dimethoxydalbergiquinol, 6-hydroxy-2,7-dimethoxyneoflavene, 6,4'-dihydroxy-7-methoxyflavan , 2,2',5-trihydroxy-4-methoxybenzophenone, 7-hydroxy-6-methoxyflavone
ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา
สารฟีนอลิกจากลำต้นมีฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ 5alpha-reductase ทำให้ลดปริมาณการสร้างฮอร์โมนเพศชายแอนโดรเจน อาจนำไปพัฒนายารักษาโรคที่มีสาเหตุจากฮอร์โมนแอนโดรเจนมากเกินไป