ชื่ออื่นๆ: | บานดึก ดอกพระจันทร์ แสงนวลจันทร์ | ชื่อสามัญ: | Cabbage Tree, Gatae, Lettuce tree, moonlight tree, Pisonia, Puatea, Mollucean Cabbage, Nachukottaikeerai, Chinai-Salit | ชื่อวิทยาศาสตร์: | Pisonia grandis R. Br. ชื่อพ้อง Selectarum Stirpium Americanarum Historia: 275(1763), Type: Habitat frequens in sylvaticis & fruticosis territori Carthagenensis. Calpidia forsteriana (Endl. ex Walp.) Heimerl Ceodes forsteriana (Endl. ex Walp.) Skottsb. Ceodes grandis (R.Br.) D.Q.Lu | วงศ์: | NYCTAGINACEAE | ถิ่นกำเนิด: | อเมริกาเขตร้อน | ลักษณะทั่วไป: | ไม้ต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลาง สูง 5 - 12 ม. ขนาดทรงพุ่ม 3 - 4 ม. ไม่ผลัดใบ ทรงพุ่มกลมหรือรูปไข่ แน่นทึบ เปลือกต้นสีเทาหรือสีน้ำตาลอ่อน ค่อนข้างเรียบและอวบน้ำ | การขยายพันธุ์: | การปักชำ | ข้อดีของพันธุ์ไม้: | | เป็นไม้ประดับที่ปลูกได้ดีในพื้นที่ร่มรำไร - กลางแจ้ง | | ยอดอ่อน ใบอ่อน ใช้ประกอบอาหาร |
| ข้อแนะนำ: | 1. | การปลูกในแปลงปลูกเพื่อประดับบริเวณบ้านและสวน ขนาดหลุมปลูก 30 x 30 x 30 เซนติเมตร ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก : ดินร่วน อัตรา 1 : 2 ผสมดินปลูก | 2. | การปลูกในกระถางเพื่อประดับภายนอกอาคาร เป็นไม้ประดับที่มีความงดงาม และมีเสน่ห์ในตัวเองแบบธรรมชาติควรใช้กระถางทรงสูงขนาด 12 - 18 นิ้ว ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก : แกลบผุ : ดินร่วน อัตรา 1 : 1: 1 ผสมดินปลูกควรเปลี่ยนกระถาง 1 - 2 ปี/ครั้ง เพราะการเจริญเติบโตของทรงพุ่มโตขึ้น และเพื่อต้องการเปลี่ยนดินปลูกใหม่ทดแทนดินปลูกเดิมที่เสื่อมสภาพ หรือถ้าต้องการไม่ให้ทรงพุ่มโตก็ควรตัดแต่งกิ่งออกบ้างก็ได้ ตามความเหมาะสมของผู้ปลูก |
| การดูแลรักษา: | แสง ต้องการแสงแดดอ่อนรำไร น้ำ ต้องการปริมาณน้ำปานกลาง ควรให้น้ำ 5 - 7 วัน/ครั้ง ดิน ชอบดินร่วนซุย มีความชื้นปานกลาง ปุ๋ย ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก อัตรา 1 - 2 กิโลกรัม/ต้น ควรใส่ปีละ 4 - 5 ครั้ง | ข้อมูลอื่นๆ: | ดวงจันทร์นั้น มักจะสาดแสงสีนวล ที่ดูเย็นตาเย็นใจให้คนเราได้ชื่นชม ต้นแสงจันทร์ก็เช่นกัน หากในค่ำคืนที่แสงของดวงจันทร์ สาดส่องมาต้องใบงามของมัน ก็จะเกิดความงดงาม เป็นสีนวลเปล่งประกายจับตาจับใจยิ่งนัก บางคนถึงกับเปรียบเทียบ ความงามของต้นแสงจันทร์กับรัศมีสีนวลผ่องของดวงจันทร์ว่า มีความงดงาม อบอุ่น อ่อนโยน เทียบเท่ากัน คนโบราณเชื่อว่า ครอบครัวที่ปลูกต้นแสงจันทร์ไว้ภายในบริเวณบ้าน จะได้รับอิทธิพลของต้นไม้ชนิดนี้เช่นกัน โดยจะส่งผลให้สมาชิกทุกคนภายในบ้าน มีจิตใจที่เยือกเย็น อบอุ่น อ่อนโยน มีกิริยามารยาทที่เรียบร้อย สุขม เย็นตาเย็นใจ ราวกับสีเหลืองของดวงจันทร์ ที่ทำให้ใครต่อใครต้องหลงใหล ไม่มีความก้าวร้าว ร้อนรน เข้ามาแผ้วพานได้เลย เคล็ดปฏิบัติ: | สุภาพสตรีเป็นผู้ที่เหมาะสมจะลงมือปลูกต้นแสงจันทร์ เพราะความสวยงาม นุ่มนวลอ่อนช้อย และชื่อเสียงเรียงนามของต้นไม้ที่เหมาะกับสุภาพสตรีนั้น ก็ยิ่งทำให้ต้นไม้ชนิดนี้ เหมาะกับการปลูกโดยสุภาพสตรี มากกว่าสุภาพบุรุษ ต้นแสงจันทร์นั้น เหมาะจะปลูกเอาไว้ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของตัวบ้าน จึงจะช่วยเพิ่มพลังในทางที่เป็นมงคล ให้กับต้นไม้ได้เป็นอย่างดี ควรลงมือปลูกต้นแสงจันทร์ในวันอังคาร เพราะคนโบราณเชื่อว่า ต้นไม้ที่มีใบดกครึ้มเป็นร่มเงานั้นเหมาะที่จะปลูกในวันอังคาร จึงจะให้ร่มเงาที่ดีที่สุดแก่ผู้เป็นเจ้าของ | เอกสารอ้างอิง: | |
http://clgc.agri.kps.ku.ac.th/
| ชื่ออื่นๆ: | บานดึก ดอกพระจันทร์ แสงนวลจันทร์ |
ชื่อสามัญ: | Cabbage Tree, Gatae, Lettuce tree, moonlight tree, Pisonia, Puatea, Mollucean Cabbage, Nachukottaikeerai, Chinai-Salit |
ชื่อวิทยาศาสตร์: | Pisonia grandis R. Br. ชื่อพ้อง Selectarum Stirpium Americanarum Historia: 275(1763), Type: Habitat frequens in sylvaticis & fruticosis territori Carthagenensis. Calpidia forsteriana (Endl. ex Walp.) Heimerl Ceodes forsteriana (Endl. ex Walp.) Skottsb. Ceodes grandis (R.Br.) D.Q.Lu |
วงศ์: | NYCTAGINACEAE |
ถิ่นกำเนิด: | อเมริกาเขตร้อน |
ลักษณะทั่วไป: | ไม้ต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลาง สูง 5 - 12 ม. ขนาดทรงพุ่ม 3 - 4 ม. ไม่ผลัดใบ ทรงพุ่มกลมหรือรูปไข่ แน่นทึบ เปลือกต้นสีเทาหรือสีน้ำตาลอ่อน ค่อนข้างเรียบและอวบน้ำ |
การขยายพันธุ์: | การปักชำ |
ข้อดีของพันธุ์ไม้: | | เป็นไม้ประดับที่ปลูกได้ดีในพื้นที่ร่มรำไร - กลางแจ้ง | | ยอดอ่อน ใบอ่อน ใช้ประกอบอาหาร |
|
ข้อแนะนำ: | 1. | การปลูกในแปลงปลูกเพื่อประดับบริเวณบ้านและสวน ขนาดหลุมปลูก 30 x 30 x 30 เซนติเมตร ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก : ดินร่วน อัตรา 1 : 2 ผสมดินปลูก | 2. | การปลูกในกระถางเพื่อประดับภายนอกอาคาร เป็นไม้ประดับที่มีความงดงาม และมีเสน่ห์ในตัวเองแบบธรรมชาติควรใช้กระถางทรงสูงขนาด 12 - 18 นิ้ว ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก : แกลบผุ : ดินร่วน อัตรา 1 : 1: 1 ผสมดินปลูกควรเปลี่ยนกระถาง 1 - 2 ปี/ครั้ง เพราะการเจริญเติบโตของทรงพุ่มโตขึ้น และเพื่อต้องการเปลี่ยนดินปลูกใหม่ทดแทนดินปลูกเดิมที่เสื่อมสภาพ หรือถ้าต้องการไม่ให้ทรงพุ่มโตก็ควรตัดแต่งกิ่งออกบ้างก็ได้ ตามความเหมาะสมของผู้ปลูก |
|
การดูแลรักษา: | แสง ต้องการแสงแดดอ่อนรำไร น้ำ ต้องการปริมาณน้ำปานกลาง ควรให้น้ำ 5 - 7 วัน/ครั้ง ดิน ชอบดินร่วนซุย มีความชื้นปานกลาง ปุ๋ย ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก อัตรา 1 - 2 กิโลกรัม/ต้น ควรใส่ปีละ 4 - 5 ครั้ง |
ข้อมูลอื่นๆ: | ดวงจันทร์นั้น มักจะสาดแสงสีนวล ที่ดูเย็นตาเย็นใจให้คนเราได้ชื่นชม ต้นแสงจันทร์ก็เช่นกัน หากในค่ำคืนที่แสงของดวงจันทร์ สาดส่องมาต้องใบงามของมัน ก็จะเกิดความงดงาม เป็นสีนวลเปล่งประกายจับตาจับใจยิ่งนัก บางคนถึงกับเปรียบเทียบ ความงามของต้นแสงจันทร์กับรัศมีสีนวลผ่องของดวงจันทร์ว่า มีความงดงาม อบอุ่น อ่อนโยน เทียบเท่ากัน คนโบราณเชื่อว่า ครอบครัวที่ปลูกต้นแสงจันทร์ไว้ภายในบริเวณบ้าน จะได้รับอิทธิพลของต้นไม้ชนิดนี้เช่นกัน โดยจะส่งผลให้สมาชิกทุกคนภายในบ้าน มีจิตใจที่เยือกเย็น อบอุ่น อ่อนโยน มีกิริยามารยาทที่เรียบร้อย สุขม เย็นตาเย็นใจ ราวกับสีเหลืองของดวงจันทร์ ที่ทำให้ใครต่อใครต้องหลงใหล ไม่มีความก้าวร้าว ร้อนรน เข้ามาแผ้วพานได้เลย |
เคล็ดปฏิบัติ: | สุภาพสตรีเป็นผู้ที่เหมาะสมจะลงมือปลูกต้นแสงจันทร์ เพราะความสวยงาม นุ่มนวลอ่อนช้อย และชื่อเสียงเรียงนามของต้นไม้ที่เหมาะกับสุภาพสตรีนั้น ก็ยิ่งทำให้ต้นไม้ชนิดนี้ เหมาะกับการปลูกโดยสุภาพสตรี มากกว่าสุภาพบุรุษ ต้นแสงจันทร์นั้น เหมาะจะปลูกเอาไว้ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของตัวบ้าน จึงจะช่วยเพิ่มพลังในทางที่เป็นมงคล ให้กับต้นไม้ได้เป็นอย่างดี ควรลงมือปลูกต้นแสงจันทร์ในวันอังคาร เพราะคนโบราณเชื่อว่า ต้นไม้ที่มีใบดกครึ้มเป็นร่มเงานั้นเหมาะที่จะปลูกในวันอังคาร จึงจะให้ร่มเงาที่ดีที่สุดแก่ผู้เป็นเจ้าของ |
เอรวบรวมโดย: | นพพล เกตุประสาท1 สุดใจ วรเลข1 และญาณี มั่นอ้น2 1 หน่วยอนุรักษ์และใช้ประโยชน์พืชพรรณ 2 หน่วยวิจัยโรคพืชและศาสตร์สัมพันธ์ ศูนย์ปฏิบัติการวิจัยและเรือนปลูกพืชทดลอง คณะเกษตร กำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จ.นครปฐม | สารอ้างอิง: | |