ระบบจะตอบกลับภายใน 24 ชั่วโมง
ขอบคุณสำหรับข้อเสนอแนะและข้อมูลเพิ่มเติม เราจะนำข้อมูลของท่านไปพัฒนาระบบให้ดียิ่งขึ้น
ตำลึงทอง ภาษาอังกฤษ: Fetid passionflower, Scarletfruit passionflower, Stinking passion flower
ตำลึงทอง ชื่อวิทยาศาสตร์: Passiflora foetida L.
วงศ์ของตำลึงทอง: PASSIFLORACEAE
ผักขี้หิด (เลย), รุ้งนก (เพชรบูรณ์), เงาะป่า (กาญจนบุรี), เถาเงาะ เถาสิงโต (ชัยนาท), ยันฮ้าง (อุบลราชธานี), เยี่ยววัว (อุดรธานี), ผักบ่วง (สกลนคร), หญ้าถลกบาต (พิษณุโลก, อุตรดิตถ์), เครือขนตาช้าง (ศรีษะเกษ), ตำลึงฝรั่ง ตำลึงทอง ผักขี้ริ้ว ห่อทอง (ชลบุรี), รกช้าง (ระนอง), หญ้ารกช้าง (พังงา), ผักแคบฝรั่ง (ภาคเหนือ)
ตำลึงทองหรือกะทกรกที่คนนิยมเรียกกัน เป็นผักที่มีคุณค่าทางอาหารสูง จัดเป็นไม้เถาเลื้อย เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ของตำลึง มีมือสำหรับใช้ในการยึดเกาะ ทำให้ตำลึงทองมีความแข็งแรง สามารถมีอายุได้สูงสุดถึง 5 ปี นอกจากนี้ยังมีขนอยู่ในทุกส่วนของต้น สามารถเจริญเติบโตได้ดีในพื้นที่ราบ มีใบที่จัดอยู่ในประเภทใบเดี่ยว จะออกเรียงสลับกันไป ลักษณะของใบตำลึงทองจะคล้ายกับรูปหัวใจ ปลายใบจะแหลม บริเวณโคนใบจะเว้าแหว่ง ขอบใบจะเป็นแบบ 3 แฉก ใบจะมีสีน้ำตาล มีขนขึ้นทั้งสองด้าน ซึ่งที่ขนจะมียางเหนียว ดอกของตำลึงทองจะเป็นดอกประเภทดอกเดี่ยว ออกตามซอกของใบ ซึ่งดอกจะมีกลีบ 10 กลีบ กลีบด้ายนอกจะมีสีเขียวอ่อน แต่ด้านในจะมีสีขาว มีกลีบเลี้ยงเป็นเส้นฝอย ที่ดอกของตำลึงทองจะมีก้านชูเกสรร่วม แยกเป็นเกสรตัวผู้ 5-8 ก้าน และเกสรตัวเมียจะมีประมาณ 3-4 ก้าน ผลของตำลึงทองจะมีรูปร่างลักษณะที่เป็นรูปทรงกลม ผลอ่อนจะมีสีเขียวอ่อน แต่เมื่อผลสุกแล้วจะเปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองอมส้ม มีใบประดับที่เป็นเส้นฝอยคลุมอยู่ทั่วผล ภายในของผลตำลึงทองจะมีเนื้อหุ้ม ซึ่งภายในจะมีเมล็ดสีใสและเนื้อมีความฉ่ำน้ำ คล้ายกับเม็ดแมงลักที่ผ่านการแช่น้ำแล้ว ผลตำลึงทองจะมีรสที่หวานแบบเฝื่อนๆฝาดๆ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่เฉพาะของตำลึงทอง ซึ่งผลมักจะออกในช่วงเดือนสิงหาคมไปจนถึงเดือนกันยายน ซึ่งตำลึงทองมีข้อควรระวังในการรับประทาน เนื่องจากเป็นพืชที่ทำให้มีอาการมึนเมาและเป็นพิษ ควรจะผ่านการต้ม ลวก ผัด ทอดก่อนรับประทาน ซึ่งตำลึงทอง เมนูที่ยอดนิยม ได้แก่ ปีกไก่ทอดตำลึงทอง ก๋วยเตี๋ยวหมูตำลึงทอง เป็นต้น
https://kaset.today/